น้ำมันไฮดรอลิค คือ น้ำมันหล่อลื่นชนิดหนึ่งที่ใช้ในระบบไฮดรอลิคเพื่อส่งกำลัง โดยหลักการทำงานของระบบไฮดรอลิกจะใช้ของไหลเพื่อถ่ายเทแรงจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งภายในระบบปิด น้ำมันไฮดรอลิกได้รับแรงดันจากปั๊ม จากนั้นน้ำมันจะเคลื่อนที่ผ่านระบบเพื่อสร้างการเคลื่อนที่ แรง หรือแรงดัน

การเลือกใช้ น้ำมันไฮดรอลิคคุณภาพดี และถูกประเภท มีประโยชน์หลายประการต่อระบบไฮดรอลิค ได้แก่ :

ปรับปรุงประสิทธิภาพ: น้ำมันไฮดรอลิกคุณภาพสูงสามารถช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของระบบไฮดรอลิกโดยลดแรงเสียดทานและการสึกหรอระหว่างชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหว สิ่งนี้สามารถนำไปสู่การทำงานที่ราบรื่นขึ้นและประสิทธิภาพที่ดีขึ้น

อายุการใช้งานของชิ้นส่วนไฮดรอลิกที่ยาวนานขึ้น: น้ำมันไฮดรอลิกที่มีน้ำมันพื้นฐานคุณภาพดีและสารเติมแต่งสามารถช่วยปกป้องชิ้นส่วนไฮดรอลิกจากการสึกหรอและการกัดกร่อน ช่วยยืดอายุการใช้งาน

ลดเวลาหยุดทำงาน: ด้วยการใช้น้ำมันไฮดรอลิกคุณภาพสูง ระบบไฮดรอลิกสามารถทำงานได้อย่างน่าเชื่อถือมากขึ้น ลดความจำเป็นในการบำรุงรักษาและการซ่อมแซม และลดเวลาหยุดทำงานให้เหลือน้อยที่สุด

การปกป้องระบบที่ดีขึ้น: น้ำมันไฮดรอลิกที่ดีได้รับการออกแบบมาเพื่อปกป้องระบบไฮดรอลิกจากการปนเปื้อน ออกซิเดชัน และการเสื่อมสภาพในรูปแบบอื่นๆ ซึ่งสามารถช่วยป้องกันความล้มเหลวและความเสียหายของระบบ

เพิ่มความปลอดภัย: ระบบไฮดรอลิคมักใช้ในงานที่ความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญ การใช้น้ำมันไฮดรอลิกคุณภาพสูงสามารถช่วยให้ระบบทำงานอย่างปลอดภัยและเชื่อถือได้ ลดความเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุหรือความล้มเหลว

โดยรวมแล้ว การใช้น้ำมันไฮดรอลิกคุณภาพดีสามารถให้ประโยชน์หลายประการ ซึ่งสามารถช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพ ความน่าเชื่อถือ และความปลอดภัยของระบบไฮดรอลิก สิ่งสำคัญคือต้องเลือกน้ำมันไฮดรอลิกที่เข้ากันได้กับระบบและสภาพการใช้งาน และปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิตสำหรับการเปลี่ยนและบำรุงรักษาน้ำมัน

คำแนะนำในการเลือกน้ำมันไฮดรอลิคให้เหมาะกับการใช้งาน

การเลือกน้ำมันไฮดรอลิกที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานของคุณเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้แน่ใจว่าระบบไฮดรอลิกของคุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือกน้ำมันไฮดรอลิกที่ดีมีดังนี้

คำแนะนำจากผู้ผลิตเครื่องจักร : ปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิตในการเลือกน้ำมันไฮดรอลิค สามารถดูจากใน manual ของเครื่องจักร ซึ่งอาจมีข้อกำหนดเฉพาะตามการออกแบบระบบไฮดรอลิคและสภาพการใช้งาน โดยปกติจะแนะนำเบอร์ความหนืดของน้ำมันไฮดรอลิคที่ใช้ได้ในระบบ และประเภทของน้ำมันไฮดรอลิค รวมถึงระยะเวลาการเปลี่ยนถ่ายที่เหมาะสม

ประเภทของน้ำมันไฮดรอลิค (Type of hydraulic oil) : จากข้อมูลคำแนะนำจากผู้ผลิตเครื่องจักร หากไม่ได้มีการระบุประเภทของน้ำมันเอาไว้ สามารถพิจารณาจากลักษณะการใช้งานประกอบดังนี้

              หากเป็นการใช้งานที่เครื่องจักรตั้งอยู่ในที่ร่ม มีอุณหภูมิที่ค่อนข้างคงที่ตลอดทั้งวัน สามารถเลือกใช้เป็น น้ำมันไฮดรอลิคชนิด HLP หรือ น้ำมันไฮดรอลิคชนิดมาตรฐานอุตสาหกรรมได้ หากต้องการอายุการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันที่ยาวนานขึ้น สามารถเลือกเป็น น้ำมันไฮดรอลิค Long Life ที่มีอายุการเปลี่ยนถ่ายยามนานกว่าน้ำมันทั่วไป คุณภาพน้ำมันที่แตกต่างกันจะมีผลเรื่องอายุการเปลี่ยนถ่ายน้ำมัน และความสามารถด้านอื่นๆของน้ำมันไฮดรอลิค เช่นการแยกน้ำออกจากน้ำมัน, ความต้านทานการเกิดฟอง, ความต้านทานการเปลี่ยนของความหนืด เป็นต้น

               หากเป็นเครื่องจักรที่มีการใช้งานในอุณหภูมิสูงร้อนจัด เย็นจัด หรือมีการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิตลอดเวลา เช่นเครื่องจักรที่ใช้กลางแจ้ง ระบบไฮดรอลิคของโรงหลอมโลหะ รถขุด รถตัก รถใช้งานในเหมืองแร่ที่ต้องมีการใช้งานกลางแจ้งอยู่ตลอดเวลา แนะนำให้เลือกใช้เป็น น้ำมันไฮดรอลิคชนิด HVI ซึ่งมีค่าความต้านทานการเปลี่ยนความหนืดของน้ำมันได้ดี ทำให้ระบบส่งกำลังทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เหตุผลเนื่องมาจากค่าความหนืดของน้ำมันจะเปลี่ยนแปลงตามอุณหภูมิ เมื่ออุณหภูมิร้อนจัดทำให้ค่าความหนืดของน้ำมันน้อยลง หรือน้ำมันเหลวขึ้นทำให้ส่งกำลังได้ไม่เต็มที่ จึงควรเลือกน้ำมันที่มีคุณสมบัติต้านทานการเปลี่ยนของอุณหภูมิ

เบอร์ความหนืด (Viscosity index) : เลือกน้ำมันไฮดรอลิคที่มีความหนืดที่เหมาะสมกับช่วงอุณหภูมิและความดันในการทำงานของระบบ ความหนืดของน้ำมันควรเหมาะสมกับความต้องการของระบบ เนื่องจากการใช้น้ำมันที่มีความหนืดไม่ถูกต้องอาจส่งผลให้ระบบมีสมรรถนะต่ำ และเกิดการสึกหรอเพิ่มขึ้น เช่นโดยทั่วไประบบส่งกำลังของเครื่องเพรสแบบแนวตั้งจะแนะนำอยู่ที่เบอร์ความหนืด 68 ส่วนเครื่องฉีดพลาสติกจะแนะนำอยู่ที่เบอร์ความหนืด 46 เป็นต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคำแนะนำจากผู้ผลิตเครื่องจักรในการเลือกเบอร์ความหนืดของน้ำมันด้วยเช่นกัน เนื่องมาจากในขั้นตอนการออกแบบเครื่องจักร ผู้ผลิตจะทราบถึงเบอร์ความหนืดที่เหมาะสมในการใช้งานกับเครื่องจักรของตน

น้ำมันพื้นฐาน (Based oil) : พิจารณาประเภทของน้ำมันพื้นฐานที่ใช้ในน้ำมันไฮดรอลิก โดยทั่วไปแล้วน้ำมันพื้นฐานชนิดน้ำมันแร่ (Mineral oil) จะมีราคาไม่สูงมากนัก นิยมใช้งานกันอย่างแพร่หลาย การเลือกใช้น้ำมันไฮดรอลิคที่มีน้ำมันพื้นฐานเป็นน้ำมันแร่จากผู้ผลิตที่มีมาตราฐานเป็นตัวเลือกที่ดี ในขณะที่น้ำมันชนิดสังเคราะห์ (Synthetic oil) จะมีคุณสมบัติ และประสิทธิภาพที่ดีกว่าในอุณหภูมิที่มีการเปลี่ยนแปลง แต่ราคาก็จะสูงกว่ามากหลายเท่าตัว จะนิยมใช้เฉพาะบางงานที่ต้องการคุณสมบัติสูงจริงๆเท่านั้น

สารเติมแต่ง (Additive) : มองหาน้ำมันไฮดรอลิกที่มีสารเติมแต่งคุณภาพสูงที่ช่วยป้องกันการสึกหรอ การกัดกร่อน ออกซิเดชั่น และการเสื่อมสภาพของน้ำมันในรูปแบบอื่นๆ สารเติมแต่งที่เหมาะสมสามารถช่วยยืดอายุการใช้งานของระบบไฮดรอลิก และปรับปรุงประสิทธิภาพ ซึ่งโดยปกติน้ำมันไฮดรอลิคที่ดีจะมีการเติมสารป้องกันการสึกหรอ (Anti-wear : AW) เข้าไปในน้ำมันเพื่อคุณสมบัติดังกล่าว

ความเข้ากันได้ (Compatibility) : ตรวจสอบให้แน่ใจว่าน้ำมันไฮดรอลิกที่คุณเลือกเข้ากันได้กับวัสดุที่ใช้ในระบบของคุณ เช่น ท่ออ่อน ซีล และส่วนประกอบอื่นๆ การใช้น้ำมันที่เข้ากันไม่ได้อาจทำให้ส่วนประกอบเหล่านี้เสียหายและส่งผลให้ระบบล้มเหลวได้

คุณภาพของผู้ผลิตน้ำมัน (Manufacturing Quality Standard) : มองหาน้ำมันไฮดรอลิกที่ได้รับมาตรฐานอุตสาหกรรมในด้านคุณภาพ เช่น ISO หรือ ASTM และผ่านการทดสอบคุณภาพน้ำมันในระดับสากล การใช้น้ำมันไฮดรอลิกที่มีคุณภาพสามารถช่วยให้ระบบของคุณทำงานได้อย่างน่าเชื่อถือและมีประสิทธิภาพ

โดยสรุป เมื่อเลือกน้ำมันไฮดรอลิกที่ดี ให้พิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น ความหนืด น้ำมันพื้นฐาน สารเติมแต่ง ความเข้ากันได้ คำแนะนำจากผู้ผลิต และมาตรฐานคุณภาพ ด้วยการเลือกน้ำมันไฮดรอลิกที่เหมาะสมสำหรับระบบของคุณ คุณสามารถช่วยให้มั่นใจได้ถึงการทำงานที่เชื่อถือได้และมีประสิทธิภาพ

easternproducechemical

ใส่ความเห็น