น้ำมันไฮดรอลิกชนิด HVI (High Viscosity Index) เป็นน้ำมันไฮดรอลิกซึ่งได้รับการคิดค้นสูตรขึ้นเป็นพิเศษเพื่อรักษาความหนืดของน้ำมันเอาไว้ในช่วงอุณหภูมิกว้าง สามารถทนต่อการเปลี่ยนแปลงความหนืดในการใช้งานในอุณหภูมิที่ร้อนหรือเย็นหรือมีการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิแบบเฉียบพลันได้ดีกว่าน้ำมันไฮดรอลิกชนิดทั่วไป ด้วยดัชนีความหนืด (Viscosity index : VI) ที่สูงกว่าทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงความหนืดของน้ำมันที่น้อยกว่าจึงมั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพที่สม่ำเสมอในสภาวะการทำงานต่างๆ

น้ำมันไฮดรอลิกชนิด HVI มีการใส่สารเติมแต่งเฉพาะที่เรียกว่าสารปรับปรุงดัชนีความหนืด (Viscosity index improvers : VIIs) สารเติมแต่งชนิดนี้ช่วยลดอัตราการเปลี่ยนแปลงความหนืดของน้ำมันตามอุณหภูมิ ทำให้ไม่ไวต่อการเปลี่ยนแปลงความหนืดเนื่องจากความผันผวนของอุณหภูมิ คุณลักษณะนี้ช่วยให้น้ำมันไฮดรอลิกสามารถรักษาคุณสมบัติการหล่อลื่นและการส่งกำลังที่เหมาะสมที่สุดให้ระบบไฮดรอลิกที่ทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงอย่างมาก เช่น เครื่องจักรหนัก, อุปกรณ์ก่อสร้าง, การใช้งานกลางแจ้ง, เครื่องจักรใช้งานในอุณหภูมิสูงหรืออุณหภูมิต่ำ รวมไปถึงเครื่องจักรที่ใช้งานในสภาวะที่มีการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ ช่วยให้มั่นใจได้ถึงการทำงานที่ราบรื่นขึ้น ลดการสึกหรอ และเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการทำงานของระบบ

ดัชนีความหนืดมีความสำคัญต่อประสิทธิภาพของน้ำมันไฮดรอลิกอย่างไร?

ดัชนีความหนืด (Viscosity index : VI) เป็นปัจจัยสำคัญต่อประสิทธิภาพของน้ำมันไฮดรอลิคเป็นอย่างมาก เนื่องจาก ความหนืดของน้ำมันไฮดรอลิกมีความสำคัญต่อการให้การหล่อลื่นที่เหมาะสม การส่งกำลัง และประสิทธิภาพของระบบ ค่า VI ที่สูงขึ้นแสดงว่าน้ำมันไฮดรอลิกมีความไวต่อการเปลี่ยนแปลงความหนืดน้อยลงเนื่องจากความผันผวนของอุณหภูมิ

เหตุผลที่ VI มีความสำคัญต่อประสิทธิภาพของน้ำมันไฮดรอลิก อาทิเช่น :

ความเสถียรของอุณหภูมิ (Temperature stability) : ระบบไฮดรอลิกที่ทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีความผันผวนของอุณหภูมิกว้างจำเป็นต้องใช้น้ำมันที่มีค่า VI สูงเพื่อรักษาความหนืดที่สม่ำเสมอ สิ่งนี้ทำให้มั่นใจได้ถึงการหล่อลื่นที่เหมาะสมที่สุดและการส่งกำลังอย่างมีประสิทธิภาพภายใต้สภาวะต่างๆ

ประสิทธิภาพด้านการใช้พลังงาน (Energy efficiency) : น้ำมันไฮดรอลิกที่มีค่า VI สูงสามารถช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานที่สม่ำเสมอ ลดการใช้พลังงานโดยไม่จำเป็น
การป้องกันการสึกหรอ (Wear protection) : ความหนืดที่เหมาะสมเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการรักษาฟิล์มหล่อลื่นระหว่างชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหว ลดการเสียดสีและการสึกหรอ น้ำมันไฮดรอลิกที่มีค่า VI สูงจะรักษาความหนืดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยป้องกันการสึกหรอของชิ้นส่วนต่างๆภายในระบบได้ดีขึ้น

ประสิทธิภาพการสตาร์ทขณะเครื่องเย็น (Cold start performance) : น้ำมันไฮดรอลิกที่มีค่า VI สูงจะข้นน้อยลงที่อุณหภูมิต่ำ ทำให้มั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพการสตาร์ทเครื่องขณะเครื่องเย็นที่ราบรื่นยิ่งขึ้น และลดความเสี่ยงของปัญหาระบบที่เกิดจากน้ำมันที่ข้น

การตอบสนองของระบบ (System responsiveness) : ความหนืดสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการรักษาการตอบสนองของระบบไฮดรอลิก น้ำมันไฮดรอลิกที่มีค่า VI สูงจะรักษาความหนืดได้ดีกว่าในช่วงอุณหภูมิต่างๆ เพื่อให้มั่นใจได้ถึงการตอบสนองและประสิทธิภาพการทำงานของระบบที่เหมาะสมที่สุด

อายุการใช้งานของชิ้นส่วนเครื่องจักร (Component lifespan) : น้ำมันไฮดรอลิกที่มีค่า VI สูงสามารถช่วยยืดอายุการใช้งานของชิ้นส่วนต่างๆของเครื่องจักรโดยให้การป้องกันการสึกหรอที่ดีขึ้น และลดโอกาสที่จะเกิดการสึกหรอของชิ้นส่วนภายในระบบเนื่องจากการหล่อลื่นที่ไม่สม่ำเสมอ

Hydraulic HVI

น้ำมันไฮดรอลิก HVI

ควรใช้น้ำมันไฮดรอลิกชนิด HVI กับงานลักษณะไหน?

น้ำมันไฮดรอลิกชนิด HVI จะเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานในระบบไฮดรอลิกที่สัมผัสกับอุณหภูมิที่หลากหลาย มีการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ งานกลางแจ้ง หรือเมื่อต้องการประสิทธิภาพการทำงานที่สม่ำเสมอ อาทิเช่น

มีความผันผวนของอุณหภูมิ (Temperature fluctuations) : น้ำมันไฮดรอลิกชนิด HVI รักษาความหนืดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นในช่วงอุณหภูมิที่กว้าง ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานกลางแจ้งหรือสภาพแวดล้อมที่อุณหภูมิแตกต่างกันอย่างมาก เช่น อุปกรณ์ก่อสร้าง, ป่าไม้, เครื่องจักรการเกษตร และเหมืองแร่ เป็นต้น

สภาพอากาศเย็น (Cold climates) : ในอุณหภูมิต่ำ น้ำมันไฮดรอลิกทั่วไปจะข้นไหลตัวได้ไม่ดี ทำให้การทำงานช้าลงหรืออาจทำให้ระบบล้มเหลว น้ำมันไฮดรอลิกชนิด HVI มีคุณสมบัติต้านทานการข้นของน้ำมันที่อุณหภูมิต่ำได้ดีกว่าน้ำมันไฮดรอลิกทั่วไป ช่วยให้มั่นใจได้ถึงการทำงานที่ราบรื่น และลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาของระบบ

ระบบสมรรถนะสูง (High-performance systems) : ในระบบไฮดรอลิกสมรรถนะสูงที่ต้องการความคลาดเคลื่อนต่ำ การรักษาความหนืดสม่ำเสมอช่วยให้มั่นใจว่าระบบทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล

การใช้งานที่มีภาระงานสูง (High-load applications) : ในระบบไฮดรอลิกที่ต้องรับภาระหรือแรงกดดันสูง ของเหลว HVI สามารถให้การป้องกันการสึกหรอได้ดีกว่า ช่วยลดโอกาสที่ส่วนประกอบจะเสียหายก่อนเวลาอันควร

อุปกรณ์เคลื่อนที่ (Mobile equipment) : น้ำมันไฮดรอลิกชนิด HVI มีประโยชน์สำหรับระบบไฮดรอลิกเคลื่อนที่ที่ต้องเจอกับสภาพการทำงานที่หลากหลาย เช่น เครื่องจักรหนัก, อุปกรณ์การเกษตร หรือรถออฟโรด เป็นต้น

ตัวอย่างของลักษณะงานที่เหมาะกับน้ำมันไฮดรอลิกชนิด HVI

การก่อสร้าง : อุปกรณ์ก่อสร้างขนาดใหญ่ เช่น รถขุด, รถตัก, รถเครน และรถดันดินมักจะทำงานกลางแจ้ง น้ำมันไฮดรอลิกชนิด HVI จึงเป็นตัวเลือกที่ควรพิจารณาเพื่อประสิทธิภาพการทำงานที่สม่ำเสมอ

การทำเหมือง : อุปกรณ์การทำเหมือง เช่น พลั่วไฮดรอลิก สว่าน และรถตัก อยู่ภายใต้อุณหภูมิที่สูงมากและสภาวะการทำงานที่สมบุกสมบัน น้ำมันไฮดรอลิก HVI สามารถช่วยรักษาสมรรถนะที่สม่ำเสมอและลดการสึกหรอ

การเกษตร : อุปกรณ์การเกษตร และเครื่องจักรการเกษตร เช่น รถแทรกเตอร์, รถเกี่ยวข้าว, รถไถเดินตาม และเครื่องจักรทางการเกษตรอื่นๆ
การขนส่ง : การใช้งานด้านการขนส่งบางอย่าง เช่น เครนติดรถบรรทุก, ลิฟต์ไฮดรอลิก และอุปกรณ์เคลื่อนที่อื่นๆ

การจัดการวัสดุ : รถยก, แท่นทำงานทางอากาศ และอุปกรณ์ขนถ่ายวัสดุอื่นๆ มักจะทำงานในสภาวะต่างๆ กัน และต้องการประสิทธิภาพระบบไฮดรอลิกที่สม่ำเสมอ
เรือเดินทะเล : อุปกรณ์ที่ใช้เดินเรือ เช่น เครื่องกว้าน เครน และระบบบังคับเลี้ยวอาจอยู่ภายใต้ความผันผวนของอุณหภูมิที่กว้างและสภาพแวดล้อมที่รุนแรง ทำให้น้ำมันไฮดรอลิก HVI เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการรักษาประสิทธิภาพที่สม่ำเสมอ

การผลิตเชิงอุตสาหกรรม : ในโรงงานผลิตที่มีระบบไฮดรอลิกขนาดใหญ่ เช่น แท่นพิมพ์ เครื่องฉีดขึ้นรูป และเครื่องจักรหนักอื่นๆ น้ำมันไฮดรอลิก HVI สามารถให้ประสิทธิภาพที่สม่ำเสมอตลอดช่วงอุณหภูมิและแรงดันในการทำงาน

ควรศึกษาคำแนะนำและข้อมูลจำเพาะของผู้ผลิตอุปกรณ์ทุกครั้งก่อนเลือกน้ำมันไฮดรอลิก แม้ว่าน้ำมันไฮดรอลิก HVI จะมีข้อดีหลายประการ แต่สิ่งสำคัญคือต้องแน่ใจว่าเข้ากันได้กับระบบเฉพาะของคุณและตรงตามข้อกำหนดเฉพาะของเครื่องจักร

easternproducechemical

ใส่ความเห็น