DOP DIOCTYL PHTHALATE
ในโลกอุตสาหกรรมเคมีสมัยใหม่ สารเติมแต่ง (additives) ถือเป็นหนึ่งในหัวใจหลักที่ทำให้วัสดุพื้นฐานอย่างพลาสติกหรือยางสามารถใช้งานได้ตรงตามคุณสมบัติที่ผู้ผลิตต้องการ ซึ่งหนึ่งในสารเติมแต่งที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดและมีการใช้งานอย่างแพร่หลายมานานหลายทศวรรษคือ Dioctyl Phthalate (DOP) หรือที่รู้จักในอีกชื่อหนึ่งว่า Di(2-ethylhexyl) phthalate (DEHP) DOP ถูกจัดอยู่ในกลุ่มของ phthalate esters ซึ่งเป็นสารที่มีคุณสมบัติหลักในการทำให้พลาสติกที่แข็งแรงและเปราะกลายเป็นวัสดุที่มีความยืดหยุ่น ทนทาน และใช้งานได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในพลาสติกประเภทพอลิไวนิลคลอไรด์ (PVC)
ในเชิงโครงสร้างเคมี DOP เป็นสารประกอบเอสเทอร์ที่ได้จากปฏิกิริยาระหว่าง phthalic anhydride กับ 2-ethylhexanol ซึ่งส่งผลให้ได้ของเหลวไม่มีสีถึงสีเหลืองอ่อน ที่สามารถผสมเข้ากับพอลิเมอร์ได้ง่ายโดยไม่แยกชั้น จึงกลายเป็นพลาสติไซเซอร์ยอดนิยมในตลาดทั้งในแง่ของประสิทธิภาพและต้นทุน โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาและอุตสาหกรรมที่เน้นการผลิตสินค้าจำนวนมากในราคาประหยัด
จากความสามารถของ DOP ที่ช่วยให้พลาสติกมีความอ่อนตัวและทนทานต่อแรงกระแทก การบิดงอ ความร้อน และแม้กระทั่งความชื้น ทำให้มันถูกใช้อย่างแพร่หลายในหลากหลายภาคอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมสายไฟและสายเคเบิล อุตสาหกรรมท่อน้ำ อุตสาหกรรมหนังเทียม พื้นไวนิล และแม้กระทั่งของเล่นเด็ก เฟอร์นิเจอร์ และวัสดุตกแต่งภายในรถยนต์
การใช้งานหลัก
DOP เป็นพลาสติไซเซอร์ที่นิยมใช้มากที่สุด โดยมีการใช้งานหลักดังนี้:
อุตสาหกรรมพลาสติก:
- ผลิตภัณฑ์พีวีซี (PVC): ใช้ในการผลิตสายไฟ สายเคเบิล ท่อ วัสดุปูพื้น วอลเปเปอร์ และฟิล์มพลาสติก เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและความทนทาน
- ของเล่นเด็ก: ใช้ในการผลิตของเล่นที่ต้องการความยืดหยุ่นและความปลอดภัย
อุตสาหกรรมยานยนต์:
- ชิ้นส่วนภายในรถยนต์: ใช้ในแผงหน้าปัด เบาะนั่ง และชิ้นส่วนอื่น ๆ ที่ต้องการความยืดหยุ่นและความทนทาน
อุตสาหกรรมก่อสร้าง:
- วัสดุก่อสร้าง: ใช้ในท่อพีวีซี วัสดุปูพื้น และวอลเปเปอร์ เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและความทนทานต่อการสึกหรอ
อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า:
- สายไฟและสายเคเบิล: ใช้ในการผลิตสายไฟที่ต้องการความยืดหยุ่นและความทนทานต่อความร้อน
พียูโฟม:
- งานพียูโฟม นิยมใช้เป็นสารสำหรับล้างทำความสะอาด หรือใช้ฟรัชชิ่ง (flushing) ท่อ, ปืนฉีดพียูโฟม, สายฉีดพียูโฟม และ ใช้เป็นเคมีที่เติมเข้าไปแทนที่น้ำยาพียูโฟม ไอโซไซยาเนต (Isocyanate) และ โพลิออล (Polyol) ในระบบเมื่อเครื่องฉีดพียูโฟมไม่ได้ทำงาน เพื่อเคลือบภายในสายส่งน้ำยาพียู และป้องกันไม่ให้ท่อต่างๆในระบบจ่ายพียูโฟมอุดตัน อีกทั้งยังช่วยให้สายส่งน้ำยาพียูโฟมไม่เปราะแตกหักง่าย ยืดอายุการใช้งาน ให้เครื่องจักรพร้อมใช้งานทันทีเมื่อต้องการผลิตงานใหม่อีกครั้ง
ลักษณะการใช้งาน
- ใช้ในงานพลาสติก ทำให้โพลีเมอร์มีความอ่อนตัวมากขึ้นไม่แตกง่ายเมื่อได้รับแรงกระแทก
- ใช้ในงานพลาสติก ทำให้โพลีเมอร์มีความสามารถในการหักงอ และยืดหยุ่นตัว
- ใช้ในงานพลาสติก ลดความหนืดของโพลีเมอร์หลอมเหลว ทำให้กระบวนการขึ้นรูปทำได้ง่ายขึ้น
- ใช้ล้างน้ำยาพียู ไอโซไซยาเนต (Isosyanate) และ โพลิออล (Polyol) ที่ค้างอยู่ในท่อ หรือหัวฉีด ไม่ให้อุดตัน
- ใช้เติมเข้าไปในระบบสายส่งน้ำยาของเครื่องฉีดพียูโฟม เพื่อป้องกันการอุดตันเมื่อไม่ได้ใช้งานเครื่องจักรต่อเนื่อง
- ใช้ฟรัชชิ่ง (Flushing) ไล่น้ำยาพียูโฟมที่ค้างในระบบสายส่งให้ออกมา ในกรณีที่ต้องการเปลี่ยนสูตรน้ำยาพียูโฟมในการผลิต หรือเมื่อต้องการล้างทำความสะอาดระบบ
- ใช้เคลือบสายท่อส่งน้ำยาพียูโฟม ไม่ให้เปราะแตกหักง่าย เมื่อไม่ได้ใช้งานเครื่องจักรต่อเนื่อง
คุณสมบัติทางกายภาพ และคุณสมบัติทางเคมี
- ชื่อเคมี (Chemical name) : Dioctyl Phthalate (DOP)
- สูตรเคมี (Chemical formula): C₂₄H₃₈O₄
- ลักษณะสี (Appearance) : ของเหลวใส ไม่มีสีถึงเหลืองอ่อน
- กลิ่น (Odour) : กลิ่นอ่อนๆ ไม่ฉุน
- จุดหลอมเหลว (Melting/Freezing point) : -55 °C
- จุดวาบไฟ (Flash point) : 215 °C
- อุณหภูมิติดไฟได้เอง (Auto-ignition temperature) : 390 °C
- แรงดันไอ (Vapour pressure) : 1.2 mmHg
- ความหนาแน่น (Relative density) : 0.985 g/cm3
- ความหนืด (Viscosity) : 56.6 mPa.s (@25 °C)
- ความสามารถในการละลาย (Water solubility) : ไม่ละลายในน้ำ, ละลายได้ในแอลกอฮอล์และตัวทำละลายอินทรีย์
ข้อควรระวังในการใช้งาน:
การจัดการและการเก็บรักษา:
-
เก็บในภาชนะที่ปิดสนิท ในที่แห้งและเย็น ห่างจากแหล่งความร้อนและประกายไฟ
-
หลีกเลี่ยงการหายใจเอาไอระเหยเข้าไป และหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผิวหนังและดวงตา
อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE):
-
สวมถุงมือป้องกัน แว่นตานิรภัย และเสื้อผ้าที่ป้องกันการสัมผัสโดยตรง
ขนาดบรรจุ : 200ลิตร/ถัง